ch.erawan hot-line :
>> 02-431-1000
menu

NEW Next Gen Everest

Facebooktwittermail
LINE it!
รูปลักษณ์ภายนอก

เอกลักษ์แห่งดีไซน์ แกร่งกว่าเดิม กว้างมากขึ้น

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมฐานล้อที่กว้างขึ้นให้การทรงตัวที่ดีขึ้น แชสซีและระบบกันสะเทือนได้รับการอัปเกรดให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมลุยมากกว่าเดิม ผสานความสะดวกสบายระดับพรีเมี่ยมให้ทุกรายละเอียด มอบความสบายเหนือระดับให้การผจญภัยในทุกเส้นทาง

ไฟหน้ารูปทรง C-Clamp

เอกลักษณ์แห่งดีเอ็นเอของรถฟอร์ด ที่เด่นชัดตั้งแต่แรกเห็น สะท้อนผ่านไฟหน้ารูปทรง C-Clamp ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง ดุดัน ที่สัมผัสได้ กับกระจังหน้าโฉมใหม่ที่เชื่อมกับไฟหน้ารูปทรง C-Clamp ที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยยกระดับตัวตนในแบบฉบับฟอร์ดไปอีกขั้น ตกแต่งภายนอกด้วยวัสดุโครเมียมที่กระจกมองข้าง มือจับประตู และบันไดข้าง ช่วยขับเน้นความรู้สึกที่หรูหราให้รถคันนี้

ไฟท้าย LED

ไฟท้าย LED signature ทรงเรียวยาว ช่วยเน้นความกว้างท้ายรถ รับกับฐานล้อที่กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร ให้ความรู้สึกแข็งแรง มั่นคง

ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ

ล้ออัลลอยขนาด 20” ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษช่วยเพิ่มมิติความแกร่งและคล่องตัวให้กับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่น Titanium+

ประตูท้ายเปิด-ปิด อัตโนมัติ

เปิด-ปิด ประตูท้ายได้ง่ายๆ โดยไม่ใช้มือ เพียงเตะขาที่บริเวณเซนเซอร์ท้ายรถ ประตูท้ายรถก็จะเปิด-ปิด ได้อัตโนมัติ ฟอร์ด เอเวเรสต์ได้รับการออกแบบให้ประตูท้ายมีขนาดใหญ่ขึ้น เปิด-ปิด ได้เร็วขึ้น

Facebooktwittermail
Color

สี Next-Gen Everest มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี

1. Aluminum Metallic สีเงิน  2. Meteor Grey สีเทา  3. Absolute Black สีดำ  4. Equinax Bronze สีบรอนซ์

 5. Blue Lightning (เฉพาะรุ่น SPORT) สีฟ้า  6. Snowflake White Pearl สีขาว  7. Sedona Orange สีส้ม

Aluminum Metallic
Meteor Grey
Absolute Black
Equinax Bronze
Blue Lightning (เฉพาะรุ่น SPORT)
Sedona Orange
Facebooktwittermail
รูปลักษณ์ภายใน

                      เพราะคุณใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับการเดินทาง เราต้องการทำให้ช่วงเวลาที่คุณอยู่บนรถ เป็นช่วงเวลาที่พิเศษ นี่คือเหตุผลที่เราออกแบบห้องโดยสารให้มีความรู้สึกที่กว้างขวาง เรียบหรู และแฝงไปด้วยรายละเอียดที่ประณีต เพื่อให้คุณรู้สึกผ่อนคลายกับทุกวินาที นี่คือนิยามใหม่สำหรับห้องโดยสารในแบบฉบับเรา

                      พื้นที่กว้างขวาง 7 ที่นั่ง ความสะดวกสบายตลอดเส้นทาง ทุกที่นั่งของ เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ให้ความรู้สึกกว้างขวาง และสะดวกสบายกว่าเคย

ภายในห้องโดยสาร Ford Everest เจเนอเรชั่นใหม่ ใช้วัสดุตกแต่งที่ให้ความรู้สึกหรูหรา เบาะหนังและหนังสังเคราะห์สีดำ แผงหน้าปัดด้านหน้าเต็มความกว้างของพื้นที่ คอนโซลกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง และที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้สำหรับเบาะคู่หน้า รองรับระบบการชาร์จแบบไร้สาย 

เกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter หุ้มด้วยหนังสวยงามจับถนัดมือ พร้อมเบรกไฟฟ้า เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง รองรับการจดจำการตั้งค่าส่วนตัวของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

เบาะนั่งแถวที่ 3 เข้า-ออกได้ง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบให้เบาะนั่งแถวที่ 2 ขยับมาด้านหน้ามากกว่าเดิม นอกจากนี้ ผู้โดยสารทุกคนยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระ และชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตนเองได้ด้วยการติดตั้งปลั๊กไฟทั้ง 3 แถว

เบาะนั่งแถว 2 ยังสามารถปรับอุณภูมิได้ เบาะนั่งที่ปรับได้หลายแบบ โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเลื่อนได้ และพับได้แบบแบ่ง 60:40 ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งทำให้รถจุผู้โดยสารได้ 7 คน แบ่งที่นั่งในอัตราส่วน 50:50 และพับได้แบบไฟฟ้าสำหรับบางรุ่น ที่สำคัญเบาะแถวที่ 2 และ 3 ยังพับได้แบบแบนราบเพื่อการบรรทุกสัมภาระยาวๆ ได้อย่างปลอดภัย

ไม่ว่าใครก็ควรที่จะได้รับความสะดวกสบายตลอดเส้นทางการเดินทาง เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ให้ความรู้สึกกว้างขวาง และสะดวกสบายกว่าเคย หลังคา Panoramic Moonroof (มีเฉพาะในรุ่น Titanium +) เพิ่มความโอ่โถงพร้อมเปิดรับการผจญภัยครั้งใหม่ของคุณ

เปิด-ปิดประตูท้ายได้ง่ายๆ โดยไม่ใช้มือ เพียงเตะขาที่บริเวณเซนเซอร์ท้ายรถ ประตูท้ายรถก็จะเปิด-ปิด ได้อัตโนมัติ  ฟอร์ด เอเวเรสต์ ได้รับการออกแบบให้ประตูท้ายมีขนาดใหญ่ขึ้น เปิด-ปิด ได้เร็วขึ้น พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขึ้น

ทีมออกแบบคิดค้นวิธีการป้องกันไม่ให้ของตกเมื่อเปิดประตูท้ายรถ โดยสร้างขอบเล็กๆ ที่เรียกกันเองในทีมว่า “จุดดักแอปเปิ้ล” (Apple catcher) บริเวณด้านหลังของที่เก็บสัมภาระ และยังมีที่เก็บของใต้พื้นรถเพื่อความเป็นระเบียบของห้องโดยสาร

Ford Everest เจเนอเรชั่นใหม่ ให้ความสำคัญกับการยกระดับอุปกรณ์เชื่อมต่อการสื่อสาร และเทคโนโลยีอันทันสมัยภายในห้องโดยสาร ด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว (รุ่น Sport) หรือ 12.4 นิ้ว (รุ่น Titanium +) และยังมีหน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 10.1 นิ้ว (รุ่น Sport) หรือ 12 นิ้ว (รุ่น Titanium +) ที่สามารถรองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto™ อีกด้วย

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชั่นใหม่ มาพร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A ควบคุมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง และเข้าถึงข้อมูลต่างๆ รวมถึงการติดตั้งโมเด็มมาจากโรงงานเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส (FordPass™)iv,v เพื่อยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถ ด้วยความสามารถในการสตาร์ทรถจากระยะไกล การตรวจเช็คสถานะต่างๆ ของรถ รวมไปถึงการล็อค และปลดล็อคผ่านโทรศัพท์มือถือ

Facebooktwittermail
Specification

สมรรถนะเหนือชั้น

ที่พร้อมพาคุณไปให้ถึงจุดหมายที่ไกลกว่าเดิม

เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยวและเทอร์โบคู่ใหม่

Ford Everest เจเนอเรชั่นใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว แบบเทอร์โบเดี่ยวในรุ่น Sport จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เน้นให้พละกำลัง แรงบิด และการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โดยให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า (125 กิโลวัตต์) ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 405 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,250 รอบต่อนาที ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ ในรุ่น Titanium + มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter 10 สปีด  เป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง และชาญฉลาดสำหรับผู้ที่ต้องการกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้น และยังคงคำนึงถึงเรื่องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โดยจะให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า (155 กิโลวัตต์) ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที

โหมดการขับขี่ที่หลากหลาย

เอเวอเรสต์ มาพร้อมโหมดการขับขี่ทั้งทางเรียบ และออฟโรดถึง 6 โหมด เพื่อการขับขี่ราวนักขับมืออาชีพในทุกเส้นทาง

โหมดปกติ

โหมดปกติ เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนในชีวิตประจำวัน

โหมดประหยัด

รักษากำลังเครื่องยนต์และเกียร์ที่เหมาะสม พร้อมเปิดระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เพื่่อให้มีการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันสูงสุด

โหมดลากจูง

เหมาะสำหรับการลากจูงวัตถุที่มีน้ำหนักมาก ระบบจะปรับลดอัตราทดเกียร์ให้เหมาะสมเพื่อการส่งกำลังที่ดีที่สุด

โหมดทางลื่น

ระบบจะช่วยควบคุมรอบเครื่องยนต์และแรงบิดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม พร้อทำงานร่วมกับระบบป้องกันการลื่นไถล เพื่อการควบคุมรถที่ดียิ่งขึ้น

โหมดโคลน

ระบบจะเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนเพื่อเพิ่มกำลังส่ง ให้รถสามารถออกตัวได้ แต่ยังรักษาสมดุลการเคลื่อนที่ของรถ พร้อมหมุนล้ออย่างรวดเร็วเพื่อกำจัดโคลนที่ติดอยู่ที่ดอกยางออก

โหมดทราย

ระบบจะส่งต่อแรงบิดไปยังล้ออย่างเต็มพิกัด พร้อมปรับคันแร่งและพวงมาลัยให้ตอบสนองรวดเร็วมากขึ้น เพื่อรักษาระดับแรงขับเคลื่อนขณะขับบนพื้นทราย

ความสามารถในการลุยน้ำสูงสุด 800 มิลลิเมตร

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทุกรุ่น พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ด้วยความสามารถลุยน้ำได้สูงสุด 800 มม.

ห่วงสำหรับคล้องลากจูงด้านหน้า

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ติดตั้งห่วงคล้องสำหรับลากจูงด้านหน้าถึงสองตำแหน่ง เพื่อให้สามารถใช้สายลากจูง และรักษาสมดุลขณะลากจูงได้ดีขึ้น แม้อยู่บนพื้นผิวโคลน หรือทราย

ดีเอ็นเอ ความแข็งแกร่ง สไตล์ฟอร์ด

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ คือยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและการขับขี่ที่เหนือชั้น ยังสะท้อนตำนานเจ้าแห่งออฟโร้ด 

ในแบบฉบับฟอร์ด

Facebooktwittermail
ความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุ

Ford Everest เจเนอเรชั่นใหม่ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ และอุปกรณ์ปกป้องความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เพื่อมอบความสบายใจและช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิมากขึ้น

ระบบเตือนการชนด้านหน้า

เอเวอเรสต์ของคุณสามารถแจ้งเตือนหากเกิดความเสี่ยงจากการชนด้านหน้ารถ ไม่ว่าจะเป็นรถ จักรยาน หรือคนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินขณะเลี้ยว (Intersection Assist) ที่จะช่วยหยุดรถอัตโนมัติในยามจำเป็น

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางพร้อมตัวช่วยตรวจจับเส้นถนน

ปลอดภัยทุกการเดินทาง ด้วยระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง พร้อมตัวช่วยตรวจจับเส้นถนน ระบบนี้จะช่วยหักพวงมาลัยเล็กน้อยเมื่อพบว่ารถเริ่มออกนอกเส้นถนน และยังพัฒนาให้สามารถตรวจจับเส้นถนนที่ไม่ชัดเจน รวมถึงไหล่ทางที่เป็นพื้นกรวดและหญ้า

ระบบช่วยจอด อัตโนมัติ

ในเวลาที่คุณไม่อยากถอดจอดด้วยตัวเอง ให้ระบบช่วยจอดอัตโนมัติจัดการได้ (Fully Autonomous Parking) เพียงแค่กดปุ่ม

ถุงลมนิรภัย 7 จุด

ปกป้องทุกชีวิต ปลอดภัยทุกเส้นทาง ด้วยถุงลมนิรภัยระหว่างคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า ที่ช่วยป้องกันแรงกระแทกจากทางด้านข้างได้

ระบบช่วยหัก พวงมาลัย เพื่อเลี่ยงการปะทะ

หากสัญญาณเรดาร์และกล้อง ของรถยนต์ ซึงทำงานร่วมกับระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติไม่สามารถช่วยหลีกเลี่ยงการปะทะได้ ระบบจะตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบ หากพบว่าเลนด้านข้างมีระยะปลอดภัย หรือแม้แต่ไหล่ทาง ระบบจะสั่งงานให้รถหักเลี้ยวหลบอุปสรรคโดยอัตโนมัติ Check disclaimer

ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง

ระบบจะทำงานร่วมกับตัวช่วยตรวจจับผู้สัญจรและสิ่งกีดขวางด้านหลังรถคุณ โดยส่งสัญญาณเตือนและเบรกฉุกเฉินในยามจำเป็น

กล้องมองรอบคัน 360 องศา

เพราะความปลอดภัยสำหรับคุณและคนที่คุณรักคือสิ่งที่สำคัญ Ford Everest เจเนอเรชั่นใหม่ มาพร้อมกล้องมองภาพรอบคันแบบ 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นขณะขับขี่หรือขณะถอย ก็ทำให้คุณสามารถมั่นใจในความปลอดภัยในขณะขับขี่

ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง

ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (iACC) รักษาความเร็วและระยะห่างจากคันหน้าจนกระทั่งถึงจุดหยุดนิ่ง (Stop & Go) พร้อมระบบ Lane Centering ที่ตรวจจับเส้นถนนเพื่อช่วยให้รถของคุณอยู่กลางเส้นทางอยู่เสมอ

Facebooktwittermail
โทรเลย